Colombia

Diccionario político y social del mundo iberoamericano. La era de las revoluciones, 1750-1850. [Iberconceptos-I], Javier Fernández Sebastián (dir.), Fundación Carolina, Sociedad Estatal de Conmemoraciones Culturales; Centro de Estudios Políticos y Constitucionales, 2009, pp.101-115., 2009

El libro científoco e, un organi,mo que se IxI", en un delicndo equilibrio. Lo, elevados cos10s iniciales (la, horas de trabajo que requieren el 'UIO', los redaclOre,. los cotre<;lore<, lo, ;Iomadore,) solo se recupc'Tan si las venIas alcanwn determinado número de ejemplares_ La fotocopia, en un primer momento, redo"," las ventas y por esle motivo contribuye al ."memO del precio_ En un segundo momento,elimina de r.ílla posibilidad económica de producir nuevOS libros. sobre lodo científicos. De confonllidad con la ley colombiaM, 1" fotocopia de Un libro (ode P"I1. de este) proIegldo por derecho de autor (oopyright) es ilícita. Por consiguiente. loda lotocopiaque burle la compra de un libro. es delito.

A. Piegrossi, A. Babbi, M. Cultraro (edd.), Tra Protostoria e Storia: l'Etruria nel cuore del Mediterraneo. Scritti in onore di Filippo Delpino per il suo 80° compleanno, Roma, pp. 187-195., 2022

The study concerns the Tomb of the Roaring Lions in Veii, dated to the early 7th century BC, which is the oldest painted tomb in Etruria. The work aims to focus on the iconographic programme of the wall paintings, investigating the significant relationship between the rows of birds and lions, placed one above the other in the back wall, near the niche that probably contained a cremation burial. This spatial arrangement of the animals within the pictorial field is significant because it could allude to the same physical relationship between the elements of sky and earth in which the birds and lions live: the paintings could therefore evoke the metaphor of a natural cosmos in which the fate of the tomb's owner fits. Finally, in support of this hypothesis, comparisons are made with contemporary Greek and Etruscan documents that attest to the reception of Near Eastern influences in the iconographic programme of the painted tomb, probably through Greek mediation and, in particular, the Tyrrhenian settlement of Pithekoussai.

The ruling of the Abuja Division of the Court of Appeal (1999) states that the Land Use Act (LUA) does not apply to lands within the Federal Capital Territory (FCT) Ipso facto. The distinction between urban and non-urban Land created by the Land Use Act is not applicable within the territory. Hence only the Federal Capital Development Authority (FCDA) is competent to grant Rights of Occupancy in respect of land within the Federal Capital Territory, Abuja. This paper examines how land may be acquired in FCT with particular emphasis on the payment of compensation; it reveals that, apart from delayed payment of compensation, current provisions of the law cannot adequately compensate dispossessed owners. It recommends that the National Assembly should come to the rescue with a definite legislation that will be applicable to the incidence of land holding in the FCT, Abuja and the establishment of a Lands Tribunal system to deal with compensation valuation issues in all the States of the Federation including Abuja.

This software is developed for general use in a variety of information management applications. It is not developed or intended for use in any inherently dangerous applications, including applications which may create a risk of personal injury. If you use this software in dangerous applications, then you shall be responsible to take all appropriate fail-safe, backup, redundancy, and other measures to ensure the safe use of this software. Oracle Corporation and its affiliates disclaim any liability for any damages caused by use of this software in dangerous applications.

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การพัฒนาเศรษฐกิจชายแดนประเทศลุ่มน้ำโขงที่มาพร้อมกับแนวคิดภูมิภาคนุวัตน์ลุ่มน้ำโขง การเปิดขึ้นของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและนโยบายใหม่ของรัฐบาลไทยสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษบริเวณชายแดนส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อการเคลื่อนย้ายของผู้คน ทุน แรงงานและสังคมวัฒนธรรมชาติพันธุ์ข้ามพรมแดนรัฐชาติอย่างเข้มข้นมากขึ้นกว่าในอดีต บริบทดังกล่าวกำลังทำให้พื้นที่ชายแดนกลายเป็น “พื้นที่พิเศษ” มีปัญหาซับซ้อนมากขึ้น ชุดโครงการวิจัยนี้ ทำความเข้าใจกับบริบทการเปลี่ยนแปลงการพัฒนาชายแดนทางเศรษฐกิจที่เข้มข้นขึ้น โดยให้ความสนใจ 3 ประเด็นปัญหา คือ แรงงาน การศึกษา และสุขภาพ ใน 3 เขตชายแดน คือ ชายแดนไทย-ลาวจังหวัดมุกดาหาร–สะหวันนะเขต ชายแดนไทย-ลาว จังหวัดเชียงรายกับแขวงบ่อแก้ว และชายแดนไทย-เมียนมาร์ จังหวัดตาก - เมียวดี ชุดโครงการวิจัยนี้นำ 6 โครงการวิจัยย่อยมาสังเคราะห์เปรียบเทียบนำเสนอทางเลือกเชิงนโยบายจากพื้นที่ชายแดนในประเด็นที่เกี่ยวข้อง ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบ“การร่วมรังสรรค์” (Co-creation) เน้นการมีส่วนร่วมของคนหลายกลุ่มในท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มต้นจนได้ผลลัพธ์แนวทาง “การจัดการพื้นที่ชายแดน” ร่วมกัน ที่เป็นนโยบายเชิงรุกจากส่วนล่าง (Bottom-up policy) ตอบวัตถุประสงค์โครงการเรื่องการสร้างและจัดการ “ทรัพยากรร่วมชายแดน” (Border commons) ที่มีคุณค่าให้ประโยชน์แก่สังคมคนชายแดนทุกฝ่าย งานชุดโครงการนี้ พบว่า ทั้ง 3 จังหวัดชายแดนสามารถพัฒนาเมืองชายแดนให้เป็น “เมืองอาเซียน” ที่เติบโตยั่งยืนบนผลประโยชน์ร่วมกันได้ หากคำนึงถึงหลักการสำคัญในการสร้าง “ทรัพยากรร่วมชายแดน” ร่วมกัน คือ ประการแรก สังคมไทยควรมีวิธีคิดที่เปิด (Openness) มากขึ้น กล้าทดลองเปลี่ยนมุมมอง “ชายแดน” และ “ความเป็นพลเมือง” ให้หลุดไปจากวิธีคิดเดิมบนฐานอธิปไตยเหนือดินแดนและสัญชาติที่เป็นต้นเหตุของทั้ง 3 ปัญหา (แรงงานข้ามชาติ ระบบการศึกษาข้ามแดน และระบบสุขภาพข้ามแดน) โดยเปลี่ยนมามอง “ชายแดน” เป็นพื้นที่เชื่อมต่อและพัฒนาได้ด้วยตัวเองหากให้พลังคนท้องถิ่นทำงานมากขึ้น และมองคนบริเวณชายแดนบนแนวคิดใหม่ว่าด้วย “ความเป็นคนในเมืองชายแดน” (BORDER CITYzenship) ที่หมายถึง “ผู้อยู่อาศัยทุกคน” โดยไม่เกี่ยวข้องกับสัญชาติ เป็น “ทรัพยากรร่วมชายแดน” เป็นผู้พัฒนาเมืองให้เติบโตเป็น“เมืองอาเซียน” ที่ยั่งยืนบนผลประโยชน์ร่วมกันได้ และดังนั้น รัฐบาลท้องถิ่นเมืองชายแดนควรมีบทบาทออกแบบนโยบายสาธารณะบนพื้นฐานสิทธิเสมอภาคร่วมกันในความเป็นคนในเมืองชายแดน ประการที่สอง ข้อเสนอประการแรกข้างต้น ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะรัฐชาติก้าวหน้าบางประเทศ (เช่น จีน ยุโรป อินเดีย) เป็นตัวอย่างก่อนหน้า แสดงให้เห็นความสามารถเรียนรู้ปรับตัวและใช้เครื่องมือเชิงยุทธวิธีที่ทันสถานการณ์และชาญฉลาด เช่น ประชาคมยุโรปกับแนวคิดพลเมืองร่วม (Co citizens) และผู้พำนักอาศัยร่วม (Co residents) หรือจีนใช้วิธี Pragmatism ไม่ยึดติดอุดมการณ์วิธีคิดตายตัว ทดลองใช้วัฒนธรรมจีนเป็นตัวนำ สร้างนโยบายใหม่เชิงยุทธศาสตร์ ปรับลดอำนาจรัฐส่วนกลางลง เปิดโอกาสให้รัฐระดับมณฑลท้องถิ่นมีอำนาจตัดสินใจออกนโยบายจัดการปัญหาในท้องถิ่นที่เหมาะสมกับสภาพปัญหาพื้นที่เฉพาะได้ ประการที่สาม นอกจากการปรับตัวของรัฐส่วนกลางแล้ว จำเป็นต้องอาศัยการปรับตัวของรัฐท้องถิ่นที่ควรมีบทบาทมากขึ้นในการวิเคราะห์สถานการณ์พื้นที่ที่มีลักษณะเฉพาะ และสร้างนโยบายสาธารณะของเมืองชายแดนบนพื้นฐานความเสมอภาค ผนวกรวมคนทุกกลุ่มในเมืองเข้ามามีส่วนร่วมผลิตสร้าง “เมืองชายแดน” ตามที่วาดหวังไว้ ดังตัวอย่างกลุ่ม United Cities and Local Governments (UCLG) ซึ่งเป็นกระแสโลกปัจจุบัน ได้ผลักประเด็นให้รัฐบาลท้องถิ่นมีพันธะสัญญาต่อเรื่อง the right to the city และเปิดโอกาสให้คนท้องถิ่นทุกกลุ่มช่วยสร้างสรรค์เมืองขึ้นร่วมกัน (Co-creating the City) ประการที่สี่ การปรับตัวของรัฐส่วนกลาง รัฐท้องถิ่น และองค์กรชายแดนที่เกี่ยวข้อง ควรทำความเข้าใจมิติทางสังคมวัฒนธรรมของกลุ่ม “ทรัพยากรร่วมชายแดน” ซึ่งเป็นทั้งทุนทางสังคม และทุนวัฒนธรรมอย่างดี เช่น แรงงานต่างชาติ พสต./อสต. หมู่บ้านคู่ขนาน และอื่นๆ ที่สามารถใช้กลไกทางสังคมวัฒนธรรมเหล่านี้อย่างเป็นประโยชน์ มองเห็นเป็น “โอกาส” พัฒนาเป็น “เครื่องมือเชิงองค์กร” ขณะเดียวกัน ควรให้การยอมรับการทำงานอย่างเป็นทางการที่สามารถช่วยดูแลคนในเมืองชายแดนลดความเสี่ยงในประเด็นโรคข้ามแดนและเสริมความมั่นคงทางสุขภาพชายแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 Cuando los seres humanos interactúan en un marco de sociedad, establecen relaciones. Estos vínculos suelen basarse en la jerarquía y desarrollan mediante la comunicación.