เห็ดฟาง
เห็ดฟาง | |
---|---|
เห็ดฟาง บางดอกยังอยู่ในเยื่อหุ้ม บางดอกก็มีหมวกผุดออกมา | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Fungi |
หมวด: | Basidiomycota |
ชั้น: | Agaricomycetes |
อันดับ: | Agaricales |
วงศ์: | Pluteaceae |
สกุล: | Volvariella |
สปีชีส์: | V. volvacea |
ชื่อทวินาม | |
Volvariella volvacea (Bulliard ex Fries) Singer | |
ชื่อพ้อง | |
|
เห็ดฟาง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Volvariella volvacea) เป็นเห็ดกินได้ชนิดหนึ่ง มีการเพาะเลี้ยงในแถบเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใช้เป็นส่วนผสมในการประกอบอาหารเอเชียอย่างแพร่หลาย ชื่อเรียกแม้แตกต่างกันไปในหลายประเทศ แต่ยังมีความหมายว่า เห็ดฟาง เหมือนกัน เห็ดฟางมักพบในรูปแบบสด แต่มีพบรูปแบบบรรจุกระป๋องหรืออบแห้งจำหน่ายนอกฤดูเก็บเกี่ยวด้วย
ลักษณะดอกเห็ดอ่อนเป็นรูปทรงไข่มีเปลือกหุ้ม เมื่อเจริญขึ้น เปลือกหุ้มปริแตก คงเหลือเปลือกหุ้มที่โคนก้าน ผิวนอกของเปลือกหุ้มส่วนมากมักเปลี่ยนเป็นสีขาวหม่นหรือสีเนื้อ หมวกเห็ดเมื่อบานเต็มที่เส้นผ่านศูนย์กลาง 4–10 เซนติเมตร กลางหมวกมีขนละเอียดสีน้ำตาลดำหรือสีน้ำตาลแดง ครีบสีขาวแล้วเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อน ไม่ยึดติดกับก้าน สั้นยาวไม่เท่ากัน ก้านยาว 4–10 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 0.5–1 เซนติเมตร ผิวสีขาวนวลมีขนสีขาว เนื้อเป็นเส้นหยาบสีขาวรวมกันแน่น ตรงกลางก้านกลวง สปอร์รูปทรงรี สีชมพู ขนาด 5–6 × 7–9 ไมโครเมตร ผิวเรียบ
เห็ดฟางตามธรรมชาติเจริญเติบโตบนกองฟางข้าวเป็นกลุ่ม 2–6 ดอก และจะถูกเก็บเกี่ยวในระยะที่ยังเจริญไม่เต็มที่ คือยังเป็นตุ่มกลม ๆ ก่อนที่หมวกเห็ดจะผุดออกมา[1] ซึ่งใช้เวลาประมาณ 4–5 วัน เจริญได้ผลดีที่สุดในภูมิอากาศเขตร้อนที่มีฝนตกชุก เห็ดชนิดนี้ไม่เคยปรากฏประวัติการเพาะปลูกมาก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 19[2]
เห็ดฟางมีลักษณะคล้ายกับเห็ดอีกชนิดหนึ่งมากคือ เห็ดระโงกหิน (ชื่อวิทยาศาสตร์: Amanita phalloides, death cap) ซึ่งเป็นเห็ดพิษ สามารถจำแนกได้ด้วยสีสปอร์ สปอร์ของเห็ดฟางเป็นสีชมพูอ่อน แต่สปอร์ของเห็ดระโงกหินเป็นสีขาว คนจำนวนมากไม่รู้ถึงข้อมูลนี้ เก็บเห็ดระโงกหินที่ขึ้นอยู่ไปกิน โดยเข้าใจว่าเป็นเห็ดฟาง ทำให้เสียชีวิต[3]
ข้อควรระวัง การเข้าอยู่ในโรงเพาะเห็ดฟาง ที่ปิดมิดชิด ห้ามเข้านานเกินไป มักจะมีข่าวการเสียชีวิต ในโรงเห็ดฟางเสมอ เกษตรควรระมัดระวังด้วย
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Tropical Mushrooms: Biological Nature and Cultivation Methods By Shu-ting Chang, T. H. Quimio at 120
- ↑ Hsiung, Deh-Ta (2006). The Chinese Kitchen. London: Kyle Cathie Ltd. pp. 186–87. ISBN 1-85626-702-4.
- ↑ The Death Cap: Amanita Phalloides. americanmushrooms.com
- เห็ดกินได้และเห็ดมีพิษในประเทศจีน ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. กรุงเทพฯ : ราชบัณฑิตยสถาน, 2539