Loei (tỉnh)
Constitution of the Kingdom of Thailand | |
---|---|
Preamble of the Constitution | |
Tiêu đề gốc | รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย |
Quyền hạn | Thailand |
Phụ thuộc | พันจ่าโทวิศิษฎ์ ทองโม้ |
Tạo | 5 October 2015 |
Trình bày | 29 March 2016 |
Phê chuẩn | 6 April 2017 |
Hiệu lực | 6 April 2017 |
Hệ thống | Unitary parliamentary constitutional monarchy |
Trụ sở | 3 |
Nguyên thủ quốc gia | Monarch |
Viện | Bicameral (National Assembly: Senate, House of Representatives) |
Quyền hành | Cabinet, led by a Prime Minister |
Tư pháp | Supreme Court |
Định lý phân quyền | Unitary |
Đại cử tri đoàn | No |
Sửa đổi | 1 |
Sửa đổi lần cuối | 7 November 2021 |
Địa điểm | |
Được ủy quyền bởi | |
Người tạo | Constitution Drafting Commission |
The Constitution of the Kingdom of Thailand (Bản mẫu:Langx; RTGS: Ratthathammanun Haeng Ratcha-anachak Thai) provides the basis for the rule of law in Thailand. Since the abolition of the absolute monarchy in 1932, Thailand has had 20 charters or constitutions (as of 2015), an average of one roughly every four years.[1] Many changes followed military coups, reflecting the high degree of political instability in the country. After each successful coup, military regimes abrogated the existing constitution, generally without public consultation.
The 1997 constitution of Thailand, often called the "people's constitution", was considered a landmark in terms of the degree of public participation involved in its drafting as well as the democratic nature of its articles. It stipulated an elected bicameral legislature, and many human rights were explicitly acknowledged for the first time. Many of these reforms disappeared in the military coup of 2006.
The current constitution was adopted in 2017. The 105-page, 279-article proposed constitution[2][3] was approved by 61.4 percent of Thai voters with 59.4 percent of the public participating. It allows the National Council for Peace and Order (NCPO) to appoint an eight to ten person panel who will choose Senators,[4] and includes six seats reserved for the heads of the Royal Thai Army, Navy, Air Force, and Police, plus the military's supreme commander, and defense permanent secretary. The bicameral Parliament could also select a candidate as Prime Minister who is not one of its members or even a politician. Critics suggest it effectively allows the military to control the government whatever the outcome of subsequent elections.
แหล่งอ้างอิงแหล่งที่มา
Tham khảo
[sửa | sửa mã nguồn]- ^ a b Lỗi chú thích: Thẻ
<ref>
sai; không có nội dung trong thẻ ref có tên:1
- ^ a b Lỗi chú thích: Thẻ
<ref>
sai; không có nội dung trong thẻ ref có tên:2
- ^ Lỗi chú thích: Thẻ
<ref>
sai; không có nội dung trong thẻ ref có têndraft
- ^ a b c Lỗi chú thích: Thẻ
<ref>
sai; không có nội dung trong thẻ ref có tên:3
User talk:Loei2536: Difference between revisions Inline Revision as of 12:42, 10 November 2024 edit Loei2536 (talk | contribs) No edit summary ← Older edit Latest revision as of 12:50, 10 November 2024 edit undo Loei2536 (talk | contribs) No edit summary[1]https://tdga.dga.or.th/index.php?lang=th
It took too long to compute your changes, so the description below may not be optimal. บรรจุสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถาบัญการเรียนรู้รัฐบาล DLOEI2536 คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)
นิยามข้อมูลส่วนบุคคล↵ ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ เช่น↵ (1) ชื่อ – นามสกุล :พันจ่าโทวิศิษฎ์ ทองโม้↵ (2) เลขประจำตัวประชาชน :1429900180512 เลขหนังสือเดินทาง เลขใบอนุญาตขับขี่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี เลขบัญชีธนาคาร เลขบัตรเครดิต↵ (3) ที่อยู่ อีเมล์ หมายเลขโทรศัพท์: 0958044521↵ (4) ข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือและข้อมูลบันทึกต่าง ๆ ที่ใช้ติดตามตรวจสอบกิจกรรมต่าง ๆ ของบุคคล เช่น IP Address, MAC Address, Cookies, User ID และ Log File เป็นต้น TDGA:DLOEI2536↵ (5) ข้อมูลทางชีวมิติ (Biometric) เช่น รูปภาพใบหน้า ลายนิ้วมือ ฟิล์มเอกซเรย์ ข้อมูลสแกนม่านตา ข้อมูลอัตลักษณ์เสียง และข้อมูลพันธุกรรม เป็นต้น↵ (6) ข้อมูลระบุทรัพย์สินของบุคคล เช่น ทะเบียนรถยนต์ โฉนดที่ดิน เป็นต้น↵ (7) ข้อมูลที่สามารถเชื่อมโยงกับข้อมูลอื่น ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้ เช่น วันเกิด และสถานที่เกิด สัญชาติ น้ำหนัก ส่วนสูง ข้อมูลตำแหน่งที่อยู่ (Location) ข้อมูลการศึกษา ข้อมูลทางการเงิน และข้อมูลการจ้างงาน เป็นต้น↵ (8) ข้อมูลการประเมินผลการทำงานหรือความเห็นของนายจ้างต่อการทำงานของลูกจ้าง↵ (9) ข้อมูลที่สามารถใช้ในการค้นหาข้อมูลส่วนบุคคลอื่นในอินเทอร์เน็ต หรือช่องทางออนไลน์อื่น ๆ↵ "ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” (Sensitive Personal Data) หมายความว่า ข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นเรื่องส่วนตัวโดยแท้ของบุคคล แต่มีความละเอียดอ่อนและสุ่มเสี่ยงต่อการถูกใช้ในการเลือกปฎิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ได้แก่ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกัน ตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ประกาศกำหนด↵ “ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.)↵ “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล ซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม↵ สำนักงาน ป.ป.ท. จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้เท่าที่จำเป็น ภายใต้อำนาจหน้าที่และวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ท. ตามที่กฎหมายกำหนด หรือรับรองตามมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เท่านั้น ในกรณีที่สำนักงาน ป.ป.ท. ประสงค์จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อื่น สำนักงาน ป.ป.ท. จะแจ้งความประสงค์ให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบและขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นก่อน เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ประกาศกำหนดให้กระทำได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นก่อน↵ ในการเก็บรวบรวมข้อมูล และเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงาน ป.ป.ท. จะใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรมในการเก็บรวบรวมและจัดเก็บข้อมูล ตลอดจนเก็บรวบรวม และจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัดเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การดำเนินการของสำนักงาน ป.ป.ท. การให้บริการด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นใดภายใต้วัตถุประสงค์ของสำนักงาน ป.ป.ท. เท่านั้น↵ ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการทำงานของ สำนักงาน ป.ป.ท. นี้ หากไม่มีข้อมูลดังกล่าว ระบบจะไม่สามารถทำงานโดยสมบูรณ์ และเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นผู้เลือกได้ว่าจะบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลอื่นใด และยินดีจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวกับบุคคลหรือหน่วยงานอื่นหรือไม่
แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล↵ ข้อมูลส่วนบุคคลที่สำนักงาน ป.ป.ท. ได้รับมา เช่น ชื่อ อายุ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน เป็นต้น ซึ่งสามารถบ่งบอกตัวบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ จะถูกนำไปใช้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์การดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ท. เท่านั้น และสำนักงาน ป.ป.ท. จะดำเนินมาตรการที่เข้มงวดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ตลอดจนการป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิชอบ↵ สำนักงาน ป.ป.ท. ได้รับข้อมูลส่วนบุคคล ด้วยความสมัครใจของเจ้าของข้อมูลหรือผู้ใช้บริการเท่านั้น โดยการลงทะเบียนผ่านเอกสารการลงทะเบียนหรือผ่านระบบดิจิทัล สำนักงาน ป.ป.ท. จะถือเป็นการยอมรับเงื่อนไขการใช้งานและอนุญาตให้ระบบจัดเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลเหล่านั้นได้ตามวัตถุประสงค์
วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล↵ สำนักงาน ป.ป.ท. จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อนำไปใช้หรือเปิดเผยเท่าที่จำเป็น ภายใต้วัตถุประสงค์ในการใช้บริการ↵ สำนักงาน ป.ป.ท. จะไม่ดำเนินการอื่นใดแตกต่างจากที่ระบุในวัตถุประสงค์ เว้นแต่ มีกฎหมายบัญญัติให้กระทำ หรือมีหนังสือร้องขอที่สามารถปฎิบัติได้ตามกฎหมาย เช่น เพื่อความจำเป็นในการป้องกันด้านสุขภาพและโรคติดต่ออันตราย เป็นต้น
การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล↵ สำนักงาน ป.ป.ท. จะดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อได้รับความยินยอมจากท่านตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้เท่านั้น นอกจากนี้ สำนักงาน ป.ป.ท. อาจจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เช่น การพิจารณาคดีของศาลและการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ในกระบวนการพิจารณาคดี เป็นต้น
การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล↵ สำนักงาน ป.ป.ท. ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน สำนักงาน ป.ป.ท. จึงกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับการรักษาความลับ และป้องกันการเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่มีสิทธิ์หรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยมีระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตลอดระยะเวลาการใช้งาน เพื่อให้ระบบทำงานได้โดยสมบูรณ์ ทั้งนี้เมื่อพ้นระยะเวลาการเก็บรักษา และไม่มีเหตุให้ต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต่อไป จะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
สิทธิ์ของเจ้าของข้อมูล↵ ท่านมีสิทธิ์ในการดำเนินการ ได้แก่ สิทธิ์ในการเพิกถอนความยินยอม, สิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล, สิทธิ์ในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล, สิทธิ์ในการลบและแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิ์โดยกฎหมาย↵ ท่านสามารถติดต่อ สำนักงาน ป.ป.ท. เพื่อให้ดำเนินการตามสิทธิ์ข้างต้นได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ และจะแจ้งผลตามคำร้อง ภายใน 30 วัน หากพบการรั่วไหลของข้อมูล ทางสำนักงาน ป.ป.ท. จะดำเนินการแจ้งให้ท่านทราบ↵ภายใน 72 ชั่วโมง↵ประวัติตำรวจแห่งชาติ↵ด้วย ตร. ได้อนุมัติให้ ตท. จัดทำวีดิทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 4 ภาษา (ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาเวียดนาม) ซึ่งบรรจุเนื้อหาสาระเกี่ยวกับประวัติสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โครงสร้าง บทบาท อำนาจหน้าที่ของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติตามโครงสร้างปัจจุบัน หากผู้ใดมีความประสงค์จะขอรับวีดีทัศน์เพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ กลุ่มงานแปลและล่าม ตท. อาคาร 1 ชั้น 10 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ↵The west งานของตำรวจ ค้นหาเลยครับ ↵Template:Infobox law enforcement agency
แจ้งผู้บังคับบัญชาสูงสุดของแต่ละสถานีตำรวจ บรรจุครับผม
ตำรวจภาค 8.[5] ภารกิจผู้ยังคับบัญชา[6] สถนีตำรวจเชียงคาน[cheangkhan.loei.police.go.th][7] ข้อมูลสถานีตำรวจทั่วไป[8] ตำรวจรัฐสภา ป็นข้าราชการรัฐสภาสามัญ ตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภา สังกัดสำนักรักษาความปลอดภัย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยภายและรักษาความปลอดภัยต่อบุคคลและทรัพย์สินต่าง ๆ ในบริเวณรัฐสภา
ตำรวจรัฐสภานั้นเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับพนักงานฝ่ายปกครองหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาภายในบริเวณของรัฐสภา แต่ไม่ใช่ข้าราชการตำรวจที่ขึ้นตรงต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 แต่อย่างใด↵นโยบายเว็บไซต์ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา
นโยบายเว็บไซต์ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา
↵Website Policy of The Secretariat of the Senate↵ปรับปรุงเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๖
⋮ ๗. กฎหมายที่ใช้บังคับ
๗.๑ การตีความ และการบังคับตามเงื่อนไขการให้บริการฉบับนี้ ให้เป็นไปตามกฎหมายไทย
ราชกิจจานุเบกษา. พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการฝ่ายรัฐสภา พ.ศ. 2554. Template:Webarchive เล่ม 128 ตอนที่ 43 ก, วันที่ 11 พฤษภาคม 2554, หน้า 5
"ชี้ 8 แนวทางปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ยัน "ผลชันสูตร-สำนวนคดี" ไม่ใช่ความลับ". mgronline.com (in Thai). 2022-03-23.
{{Cite web |date=2012-06-25
๗.๑ การตีความ และการบังคับตามเงื่อนไขการให้บริการฉบับนี้ ให้เป็นไปตามกฎหมายไทย
นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา
↵Website Security Policy of The Secretariat of the Senate↵ปรับปรุงเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๖
มาตรการ และวิธีการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้ตระหนักถึงความสำคัญในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ เพื่อปกป้องข้อมูลของผู้ใช้บริการจากการถูกทำลาย หรือบุกรุกจากผู้ไม่หวังดี หรือผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูล จึงได้กำหนดมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ โดยใช้มาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลขั้นสูง ด้วยเทคโนโลยี Secured Socket Layer (SSL) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีในการเข้าสู่ข้อมูลผ่านรหัสที่ระดับ ๑๒๘ bits (๑๒๘-bits Encryption) เพื่อเข้ารหัสข้อมูลที่ถูกส่งผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตใน
ทุกครั้ง ที่มีการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ทำให้ผู้ที่ดักจับข้อมูลระหว่างทางไม่สามารถนำข้อมูลไปใช้ต่อได้ โดยจะใช้การเข้ารหัสเป็นหลักในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล โดยผู้ใช้บริการสามารถสังเกตได้จากชื่อโปรโตคอลที่เป็น https://↵เทคโนโลยีเสริมที่นำมาใช้ในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย
นอกจากมาตรการ และวิธีการรักษาความมั่นคงปลอดภัยโดยทั่วไปที่กล่าวข้างต้นแล้ว สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภายังใช้เทคโนโลยีระดับสูงดังต่อไปนี้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัวของท่าน ๑. Firewall เป็นระบบซอฟท์แวร์ที่จะอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่มีสิทธิ หรือผู้ที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาอนุมัติเท่านั้นจึงจะผ่าน Fire Wall เพื่อเข้าถึงข้อมูลได้ ๒. Scan Virus นอกจากเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่ให้บริการจะมีการติดตั้ง Software ป้องกัน Virus ที่มีประสิทธิภาพสูงและ Update อย่างสม่ำเสมอแล้ว สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภายังได้ติดตั้ง Scan Virus Software บนเครื่อง Server โดยเฉพาะอีกด้วย ๓. Cookies เป็นไฟล์คอมพิวเตอร์เล็ก ๆ ที่จะทำการเก็บข้อมูลชั่วคราวที่จำเป็น ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ขอใช้บริการ เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการติดต่อสื่อสาร อย่างไรก็ตาม สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาตระหนักถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการเป็นอย่างดี จึงหลีกเลี่ยงการใช้ Cookies
แต่ถ้าหากมีความจำเป็น ต้องใช้ Cookies สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจะพิจารณาอย่างรอบคอบ และตระหนักถึงความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวของผู้ขอรับบริการเป็นหลัก
๔. Auto Log off ในการใช้บริการของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา หลังจากเลิกการใช้งานควร
Log off ทุกครั้ง กรณีที่ผู้ใช้บริการลืม Log off ระบบจะทำการ Log off ให้โดยอัตโนมัติภายในเวลาที่เหมาะสมของแต่ละบริการ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการเอง↵ข้อแนะนำเกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัย
แม้ว่าสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจะมีมาตรฐานเทคโนโลยีและวิธีการทางด้านการรักษาความปลอดภัยอย่างสูง เพื่อช่วยมิให้มีการเข้าสู่ข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลที่เป็นความลับของท่านโดยปราศจากอำนาจตามที่กล่าวข้างต้นแล้วก็ตาม แต่ก็เป็นที่ทราบกันอยู่โดยทั่วไปว่า ปัจจุบันนี้ยังมิได้มีระบบรักษาความปลอดภัยใด ๆ ที่จะสามารถปกป้องข้อมูลของท่านได้อย่างเด็ดขาดจากการถูกทำลายหรือถูกเข้าถึงโดยบุคคลที่ปราศจากอำนาจได้ ดังนั้นท่านจึงควรปฏิบัติตามข้อแนะนำเกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยดังต่อไปนี้ด้วยคือ ๑. ระมัดระวังในการ Download Program จาก Internet มาใช้งาน ควรตรวจสอบ Address ของเว็บไซต์ให้ถูกต้องก่อน Login เข้าใช้บริการ เพื่อป้องกันกรณีที่มีการปลอมแปลงเว็บไซต์ ๒. ควรติดตั้งระบบตรวจสอบไวรัสไว้ที่เครื่องและพยายามปรับปรุงให้โปรแกรม ตรวจสอบไวรัสในเครื่องของท่านมีความทันสมัยอยู่เสมอ ๓. ติดตั้งโปรแกรมประเภท Personal Fire wall เพื่อป้องกันเครื่องคอมพิวเตอร์ จากการจู่โจมของผู้ไม่ประสงค์ดี เช่น Cracker หรือ Hacker
พันจ่าโทวิศิษฎ์ ทองโม้ Latest revision as of 12:50, 10 November 2024 นโยบายเว็บไซต์ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา
Website Policy of The Secretariat of the Senate ปรับปรุงเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๖
๑. วัตถุประสงค์
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้จัดทำเว็บไซต์ขึ้นเพื่อให้บริการข้อมูลข่าวสารแก่สมาชิกรัฐสภา หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน บุคลากรในวงงานรัฐสภา และประชาชนทั่วไป ในการใช้บริการเว็บไซต์ของผู้ใช้บริการจะอยู่ภายใต้เงื่อนไขและข้อกำหนดดังต่อไปนี้ ผู้ใช้บริการจึงควรศึกษาเงื่อนไข และข้อกำหนดการใช้งานเว็บไซต์ และ/หรือเงื่อนไขและข้อตกลงอื่นใดที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้แจ้งให้ทราบบนเว็บไซต์โดยละเอียดก่อนการเข้าใช้บริการ ทั้งนี้ ในการใช้บริการให้ถือว่าผู้ใช้บริการได้ตกลงที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อกำหนดการให้บริการที่กำหนดไว้นี้ หากผู้ใช้บริการไม่ประสงค์ที่จะผูกพันตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการ ขอความกรุณาท่านยุติการเข้าชมและใช้งานเว็บไซต์นี้ในทันที
๒. เงื่อนไขและข้อกำหนดการใช้งานเว็บไซต์
๒.๑ ผู้ใช้บริการอาจได้รับ เข้าถึง สร้าง ส่งหรือแสดงข้อมูล เช่น ไฟล์ข้อมูล ข้อความลายลักษณ์อักษร ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ ดนตรี ไฟล์เสียง หรือเสียงอื่น ๆ ภาพถ่าย วิดีโอ หรือรูปภาพอื่น ๆ โดยเป็นส่วนหนึ่งของบริการหรือโดยผ่านการใช้บริการ ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า “เนื้อหา” ๒.๒ เนื้อหาที่นำเสนอต่อผู้ใช้บริการ อาจได้รับการคุ้มครองโดยสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของเจ้าของเนื้อหานั้น ผู้ใช้บริการไม่มีสิทธิเปลี่ยนแปลงแก้ไข จำหน่ายจ่ายโอนหรือสร้างผลงานต่อเนื่องโดยอาศัยเนื้อหาดังกล่าวไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วน เว้นแต่ผู้ใช้บริการจะได้รับอนุญาตโดยชัดแจ้งจากเจ้าของเนื้อหานั้น ๒.๓ ผู้ใช้บริการอาจพบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม หรือหยาบคาย อันก่อให้เกิดความไม่พอใจ ภายใต้ความเสี่ยงของตนเอง ๒.๔ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทรงไว้ซึ่งสิทธิในการคัดกรอง ตรวจทาน ทำเครื่องหมาย เปลี่ยนแปลงแก้ไข ปฏิเสธ หรือลบเนื้อหาใด ๆ ที่ไม่เหมาะสมออกจากบริการ ซึ่งสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาอาจจัดเตรียมเครื่องมือในการคัดกรองเนื้อหาอย่างชัดเจน โดยไม่ขัดต่อกฎหมาย กฎระเบียบของทางราชการที่เกี่ยวข้อง ๒.๕ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาอาจหยุดให้บริการเป็นการชั่วคราวหรือถาวร หรือยกเลิกการให้บริการแก่ผู้ใช้บริการรายใดเป็นการเฉพาะ หากการให้บริการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการอื่น ๆ หรือขัดแย้งต่อกฎหมาย โดยไม่ต้องแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้า ๒.๖ การหยุดหรือการยกเลิกบริการตามข้อ ๒.๕ ผู้ใช้บริการจะไม่สามารถเข้าใช้บริการ และเข้าถึงรายละเอียดบัญชีของผู้ใช้บริการ ไฟล์เอกสารใด ๆ หรือเนื้อหาอื่น ๆ ที่อยู่ในบัญชีของผู้ใช้บริการได้ ๒.๗ ในกรณีที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาหยุดให้บริการเป็นการถาวร หรือยกเลิกบริการ
แก่ผู้ใช้บริการ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภามีสิทธิในการลบข้อมูลต่าง ๆ ที่อยู่ในบัญชีของผู้ใช้บริการได้ โดยไม่ต้องแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้า
๓. สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของผู้ใช้บริการ
๓.๑ ผู้ใช้บริการจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เช่น ข้อมูลระบุตัวตนหรือรายละเอียดการติดต่อ
ที่ถูกต้อง เป็นจริง และเป็นปัจจุบันเสมอ แก่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา อันเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการลงทะเบียนใช้บริการ หรือการใช้บริการที่ต่อเนื่อง
๓.๒ ผู้ใช้บริการจะใช้บริการเว็บไซต์นี้ เพื่อวัตถุประสงค์ที่ได้รับอนุญาตตามข้อกำหนดของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา และไม่ขัดต่อกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หลักปฏิบัติที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป ๓.๓ ผู้ใช้บริการจะไม่เข้าใช้หรือพยายามเข้าใช้บริการหนึ่งบริการใดโดยวิธีอื่น รวมถึงการใช้วิธีการอัตโนมัติ (การใช้สคริปต์) นอกจากช่องทางที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจัดเตรียมไว้ให้ เว้นแต่ผู้ใช้บริการจะได้รับอนุญาตจากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาโดยชัดแจ้งให้ทำเช่นนั้นได้ ๓.๔ ผู้ใช้บริการจะไม่ทำหรือมีส่วนร่วมในการขัดขวางหรือรบกวนบริการของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา รวมทั้งเครื่องแม่ข่ายและเครือข่ายที่เชื่อมต่อกับบริการ ๓.๕ ผู้ใช้บริการจะไม่ทำสำเนา คัดลอก ทำซ้ำ ขาย แลกเปลี่ยน หรือขายต่อบริการเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ เว้นแต่ผู้ใช้บริการจะได้รับอนุญาตจากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาโดยชัดแจ้งให้ทำเช่นนั้นได้ ๓.๖ ผู้ใช้บริการมีหน้าที่ในการรักษาความลับของรหัสผ่านที่เชื่อมโยงกับบัญชีใด ๆ ที่ใช้ในการเข้าถึงบริการ ๓.๗ ผู้ใช้บริการจะเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวต่อบุคคลใด ๆ รวมถึงสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ในความเสียหายอันเกิดจากการละเมิดข้อกำหนด
๔. การเชื่อมโยงกับเว็บไซต์อื่น ๆ
๔.๑ การเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่นเป็นเพียงการให้บริการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการเท่านั้น สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภามิได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีอำนาจควบคุม รับรอง ความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ ตลอดจนความรับผิดชอบในเนื้อหาข้อมูลของเว็บไซต์นั้น ๆ ๔.๒ กรณีต้องการเชื่อมโยงมายังเว็บไซต์ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ผู้ใช้บริการสามารถเชื่อมโยงมายังหน้าแรกของเว็บไซต์ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้ โดยแจ้งความประสงค์เป็นหนังสือ แต่หากต้องการเชื่อมโยงมายังหน้าภายในของเว็บไซต์นี้ จะต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาแล้วเท่านั้น และในการให้ความยินยอมดังกล่าว สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาขอสงวนสิทธิที่จะกำหนดเงื่อนไขใด ๆ ไว้ด้วยก็ได้ ในการที่เว็บไซต์อื่นที่เชื่อมโยงมายังเว็บไซต์ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา จะไม่รับผิดชอบต่อเนื้อหาใด ๆ ที่แสดงบนเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงมายังเว็บไซต์ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา หรือต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้เว็บไซต์เหล่านั้น
๕. การปฏิเสธความรับผิด
๕.๑ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจะไม่รับผิดต่อความเสียหายใด ๆ รวมถึง ความเสียหาย สูญเสียและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม ที่เป็นผลหรือสืบเนื่องจากการที่ผู้ใช้เข้าใช้เว็บไซต์นี้หรือเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์นี้ หรือต่อความเสียหาย สูญเสียหรือค่าใช้จ่ายที่เกิดจากความล้มเหลวในการ
ใช้งาน ความผิดพลาด การละเว้น การหยุดชะงัก ข้อบกพร่อง ความไม่สมบูรณ์ คอมพิวเตอร์ไวรัส ถึงแม้ว่าสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจะได้รับแจ้งว่าอาจจะเกิดความเสียหาย สูญเสียหรือค่าใช้จ่ายดังกล่าวขึ้น นอกจากนี้ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาไม่รับผิดต่อผู้ใช้เว็บไซต์หรือบุคคลจากการเรียกร้องใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากบนเว็บไซต์ หรือเนื้อหาใด ๆ ซึ่งรวมถึงการตัดสินใจหรือการกระทำใด ๆ ที่เกิดจากความเชื่อถือในเนื้อหาดังกล่าวของผู้ใช้เว็บไซต์ หรือในความเสียหายใด ๆ ไม่ว่าความเสียหายทางตรง หรือทางอ้อม รวมถึงความเสียหายอื่นใดที่อาจเกิดขึ้นได้ผู้ใช้บริการยอมรับและตระหนักดีว่า สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจะ ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำใดของผู้ใช้บริการทั้งสิ้น ๖. กรรมสิทธิ์ิ์และสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา
๖.๑ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาหรือผู้ให้อนุญาตแก่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เป็นผู้มีสิทธิตามกฎหมายแต่เพียงผู้เดียวใน กรรมสิทธิ์ ผลประโยชน์ทั้งหมด รวมถึงสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาใด ๆ ที่มีอยู่ในบริการซึ่งสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา หรือผู้ให้อนุญาตแก่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เป็นผู้จัดทำขึ้น
ไม่ว่าสิทธิเหล่านั้นจะได้รับการจดทะเบียนไว้หรือไม่ก็ตาม
๖.๒ ผู้ใช้บริการจะต้องไม่เปิดเผยข้อมูลที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภากำหนดให้เป็นความลับ โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าจากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ๖.๓ ผู้ใช้บริการจะต้องไม่ใช้ชื่อทางการค้า เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายการบริการ ตราสัญลักษณ์ ชื่อโดเมนของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา
๗. กฎหมายที่ใช้บังคับ
๗.๑ การตีความ และการบังคับตามเงื่อนไขการให้บริการฉบับนี้ ให้เป็นไปตามกฎหมายไทย
นโยบายการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา
Website Security Policy of The Secretariat of the Senate ปรับปรุงเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๖
มาตรการ และวิธีการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้ตระหนักถึงความสำคัญในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ เพื่อปกป้องข้อมูลของผู้ใช้บริการจากการถูกทำลาย หรือบุกรุกจากผู้ไม่หวังดี หรือผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูล จึงได้กำหนดมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเว็บไซต์ โดยใช้มาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลขั้นสูง ด้วยเทคโนโลยี Secured Socket Layer (SSL) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีในการเข้าสู่ข้อมูลผ่านรหัสที่ระดับ ๑๒๘ bits (๑๒๘-bits Encryption) เพื่อเข้ารหัสข้อมูลที่ถูกส่งผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตใน
ทุกครั้ง ที่มีการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ทำให้ผู้ที่ดักจับข้อมูลระหว่างทางไม่สามารถนำข้อมูลไปใช้ต่อได้ โดยจะใช้การเข้ารหัสเป็นหลักในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล โดยผู้ใช้บริการสามารถสังเกตได้จากชื่อโปรโตคอลที่เป็น https:// เทคโนโลยีเสริมที่นำมาใช้ในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย
นอกจากมาตรการ และวิธีการรักษาความมั่นคงปลอดภัยโดยทั่วไปที่กล่าวข้างต้นแล้ว สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภายังใช้เทคโนโลยีระดับสูงดังต่อไปนี้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัวของท่าน ๑. Firewall เป็นระบบซอฟท์แวร์ที่จะอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่มีสิทธิ หรือผู้ที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาอนุมัติเท่านั้นจึงจะผ่าน Fire Wall เพื่อเข้าถึงข้อมูลได้ ๒. Scan Virus นอกจากเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่ให้บริการจะมีการติดตั้ง Software ป้องกัน Virus ที่มีประสิทธิภาพสูงและ Update อย่างสม่ำเสมอแล้ว สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภายังได้ติดตั้ง Scan Virus Software บนเครื่อง Server โดยเฉพาะอีกด้วย ๓. Cookies เป็นไฟล์คอมพิวเตอร์เล็ก ๆ ที่จะทำการเก็บข้อมูลชั่วคราวที่จำเป็น ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ขอใช้บริการ เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการติดต่อสื่อสาร อย่างไรก็ตาม สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาตระหนักถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการเป็นอย่างดี จึงหลีกเลี่ยงการใช้ Cookies
แต่ถ้าหากมีความจำเป็น ต้องใช้ Cookies สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจะพิจารณาอย่างรอบคอบ และตระหนักถึงความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวของผู้ขอรับบริการเป็นหลัก
๔. Auto Log off ในการใช้บริการของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา หลังจากเลิกการใช้งานควร
Log off ทุกครั้ง กรณีที่ผู้ใช้บริการลืม Log off ระบบจะทำการ Log off ให้โดยอัตโนมัติภายในเวลาที่เหมาะสมของแต่ละบริการ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการเอง ข้อแนะนำเกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัย
แม้ว่าสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาจะมีมาตรฐานเทคโนโลยีและวิธีการทางด้านการรักษาความปลอดภัยอย่างสูง เพื่อช่วยมิให้มีการเข้าสู่ข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลที่เป็นความลับของท่านโดยปราศจากอำนาจตามที่กล่าวข้างต้นแล้วก็ตาม แต่ก็เป็นที่ทราบกันอยู่โดยทั่วไปว่า ปัจจุบันนี้ยังมิได้มีระบบรักษาความปลอดภัยใด ๆ ที่จะสามารถปกป้องข้อมูลของท่านได้อย่างเด็ดขาดจากการถูกทำลายหรือถูกเข้าถึงโดยบุคคลที่ปราศจากอำนาจได้ ดังนั้นท่านจึงควรปฏิบัติตามข้อแนะนำเกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยดังต่อไปนี้ด้วยคือ ๑. ระมัดระวังในการ Download Program จาก Internet มาใช้งาน ควรตรวจสอบ Address ของเว็บไซต์ให้ถูกต้องก่อน Login เข้าใช้บริการ เพื่อป้องกันกรณีที่มีการปลอมแปลงเว็บไซต์ ๒. ควรติดตั้งระบบตรวจสอบไวรัสไว้ที่เครื่องและพยายามปรับปรุงให้โปรแกรม ตรวจสอบไวรัสในเครื่องของท่านมีความทันสมัยอยู่เสมอ ๓. ติดตั้งโปรแกรมประเภท Personal Fire wall เพื่อป้องกันเครื่องคอมพิวเตอร์ จากการจู่โจมของผู้ไม่ประสงค์ดี เช่น Cracker หรือ Hacker
พันจ่าโทวิศิษฎ์ ทองโม้
กรมการปกครอง[9]เจ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเชียงคาน[10]หนังสือรับรองจบ[11]
E-Book การไฟฟ้าฝ่ายผลิต[12] E-Book การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค[13] เจ้าของกรมการปกครองจังหวัดเลย[14] ประกาศนียบัตริกฏหมาย[15]
- ^ ทองโม้, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (11.พ.ย 2567). [wiki.kpi.ac.th/index.php?title=รัฐธรรมนูญ “รัฐธรรมนูญพระปกเกล้า”] Kiểm tra giá trị
|url=
(trợ giúp). https://www.google.co.th/search?q=%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%A2&client=ms-opera-mobile&channel=new&espv=1. Truy cập รัฐธรรมนูญณพระปกเกล้าฯจังหวัดเลย 2567. Đã định rõ hơn một tham số trong|tác giả=
và|họ=
(trợ giúp); Kiểm tra giá trị|url lưu trữ=
(trợ giúp); Kiểm tra giá trị ngày tháng trong:|ngày truy cập=
và|ngày=
(trợ giúp); Liên kết ngoài trong|website=
(trợ giúp)