ราเชลสวยและมีเสน่ห์มากๆ ใครว่าเธอไม่สวย ไม่เหมาะหับบท ปากแจ๋ว หรืออะไรก็ตามปัดตกหมดไม่สน แต่มันไม่สนุกง่ะะะ
Favorite films
Recent activity
AllRecent reviews
MorePopular reviews
More-
The Paradise of Thorns 2024
ไม่โดนเส้นเราเท่าไหร่ ไปจนถึงไม่ชอบเลยด้วยซ้ำ เห็นว่ามาทางเดือดดาลกัดแก่นแย่งชิงกันแต่อันที่จริงเพลย์เซฟซะจนไม่รู้สึกว่าหนังจะพาเราไปสุดทางไหนเลย หลายมุมหลายความคิดของตัวละครก็น่าขัดใจจนตั้งคำถามว่า นี่คือสิ่งที่ตัวละครจะรู้สึก หรือตัดสินใจในสถานการณ์แบบนี้จริงๆหรอ แต่ยังไงก็ตามมันก็เพลย์เซฟตัวเองขั้นสุดในตอนจบ ที่ทำให้เราครินจ์สุดขอบ ราวกับฟ้ามีตา แต่ชอบในงานซินีมาโต และอาร์ตของเรื่องนี้มันสุดขอบมันสวยราวกับอยู่ในวิมานที่แขวนอยู่กับความไม่เท่าเทียม ภาษาภาพของหนังมันสื่อสารสิ่งนี้กับเรา
Translated from by -
Happyend 2024
เมื่อแผ่นดินไหวสร้างรอยแยกทางความสัมพันธ์และส่องให้เห็นชัดถึงระบบการปกครองที่บีบรัดให้คนเชื่องต่อการดูแล นำมาสู่ความต้องการเปลี่ยนแปลงอำนาจเบื้องบนที่มีผลต่อการใช้ชีวิตเพื่อสะท้อนกลับว่าฉันควรได้รับสิทธิ์ใช้ชีวิตในแบบที่ฉันควรจะได้ ซึ่งเป็นเสียงจากเด็กนักเรียน
รอยแยกทางความสัมพันธ์ระหว่างยูตะกับโคที่เป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เด็ก เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ที่พวกเขาสร้างไว้จากการกระทำที่ทั้งคู่ต้องการจะส่งเสียงไปถึงอำนาจจากผู้ใหญ่แต่กลับมีผลทวีคูณในช่วงหลังแผ่นดินไหว ทำให้ฝ่ายนึงมองว่าอีกฝ่ายนึงมีอุดมการณ์ที่ต่างกัน
หนังพูดถึงเรื่องทางประเด็นสังคมอย่างตรงไปตรงมา ตั้งแต่เรื่องความหลากหลายทางเชื้อชาติ ไปจนถึงการใช้อำนาจจากเบื้องบน ด้วยวิธีการที่ริดรอนสิทธิที่พวกเขาพึงจะได้รับ ผ่านกรอบการระบุตัวตน และกรอบที่ใช้ตัดคะแนนนักเรียนที่กระทำผิด จนเกิดเป็นเอสเตอติกเส้นตารางที่ใส่มาอยู่ในหนังทั้งเรื่อง
จากซูชิ สู่คิมบับ (หนึ่งในซีนทรงพลัง)
การยอมรับคารพซึ่งกันและกัน คือสิ่งที่พวกเขาต้องการสะท้อนไปถึงคนที่โตกว่า แต่กลับกลายเป็นว่าพวกเขาก่อกบถ หรืออะไรก็แล้วแต่ เกิดเป็นความรุนแรงที่อำนาจรัฐกระทำกับประชาชน ผอ.โรงเรียนกระทำกับนักเรียน และใช่ที่ทำไมเราต้องก้มหน้ารับความฟัคอัพนี้ เมื่อมีผู้ออกมาเรียกร้อง ย่อมมีผู้ไม่เห็นด้วย เพราะกลัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่ยังมาไม่ถึง นั่นเป้นความน่าเศร้าที่เราได้เห็นในเรื่อง ซึ่งพอเทียบเคียงกับเหตุการณ์ในระเทศไทยแล้ว เราคิดถึงกลุ่มนักเรียนเลว ที่พยายามพูดถึงสิทธิที่เราพึงได้รับ แต่ต้องต่อสู่กับกระแสตีกลับจากคนที่ไม่เห็นด้วยหลายเหตุการณ์ในเรื่องเรามองว่าใกล้เคียงกับบริบทประเทศไทย บางซีนทำให้เราคิดถึงหนังเรื่อง scala (2022) การรื้อถอนโรงหนังสกาล่า ที่มีพื้นหลังเป็นเสียงการประท้วงชุมนุมช่วงปี 2020 ซึ่งสำหรับเรามันน่าเศร้ามากๆ
เราจะได้เห็นไวป์หนังที่แตกต่างจากหนังญี่ปุ่นเรื่องอื่นๆทั่วไป แต่มันก็คงความเป็นญี่ปุ่นไว้อย่างชัดเจนผ่านเอสเตอติกความสวยงามในโลกอนาคตของญี่ปุ่น ผ่านไวป์ที่ซีเรียส จริงจัง ซึ่งต้องการวิพากษ์ประเด็นสังคมในญี่ปุ่นในแบบที่เราอาจจะไม่ค่อยคุ้นชินในภาพของหนังญี่ปุ่นซักเท่าไหร่
เคมีของนักแสดงในกลุ่มนี้เข้ากันดีมากจนทำให้เรารู้สึกผูกพันธ์ไปกับตัวละคร ในระยะเวลาเกือบสองชั่วโมงที่เราได้อยู่กับหนัง จนพูดได้เต็มปากว่าหนังเรื่องนี้เป็นเซฟโซนนึงของเราไปแล้ว
ถ้ามีโอกาสอยากให้ทุกคนได้ไปดูกันนะคับ แอบเสียดายที่หนังได้ฉายแบบจำกัดที่ น่าเศร้าจริงๆ
*สปอย*
ซีนที่สะเทือนใจที่สุดในเรื่องคือซีนที่ยูตะเข็นซัฟวูฟเฟอร์ไปที่บาร์ร้าง ซึ่งเป็นแหล่งรวมตัวของชมรมหลังจากที่ถูกยึดห้องชมรมไป แต่แล้วยูตะก็พบว่าตรงนั้นกำลังจะเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ น่าเศร้ามากๆที่ถัดจากโรงหนังที่เราดูไปไม่ไกลก็กำลังเผชิญเหตุการณ์นี้อยู่เช่นกัน
Translated from by
