Ronnahrod

Ronnahrod

Favorite films

  • Fantastic Mr. Fox
  • Ocean Waves
  • The Master
  • Magnolia

Recent activity

All
  • Hit Man

    ★★★★

  • The Brutalist

    ★★★★½

  • God of Gamblers

    ★★★★

  • A Better Tomorrow

    ★★★½

Recent reviews

More
  • The Brutalist

    The Brutalist

    ★★★★½

    ดูแล้วก็อดที่จะนึกถึง Amerika ของคาฟคาไม่ได้ ทั้งคู่เล่าเรื่องผู้อพยพในอเมริกาที่ต้องดิ้นรนในสังคมที่พร้อมจะทิ้งเราและเอารัดเอาเปรียบเราได้ทุกเมื่อ แม้จะพิสูจน์ตัวเองมากแค่ไหนก็เป็นได้แค่ ‘คนต่างด้าว’ ในสายตาพวกเขาเท่านั้น

    นอกจากนั้นองค์ประกอบอื่น ๆ อย่าง scores ก็ใส่ได้ถูกที่ถูกเวลาเหลือเกิน จนสะกดผู้ชมอยู่กับตัวหนังได้ตลอด และ cinematography ก็สวยตาแตกแถมออกแบบช็อตได้สร้างสรรค์ดู epic รู้สึกถึงการตั้งตระหง่านอย่างแข็งกร้าว แสดงถึงการคงอยู่เป็นอนุสรณ์สืบไป เหมือนกับอุดมการณ์ของตัวเอกที่ต้องต่อสู้ฝ่าฟันกับนายทุนในประเทศแห่ง ‘โอกาส’ นี้เอง

    ไม่น่าเชื่อว่าหนังเรื่องนี้จะมีงบสร้างแค่สิบล้านดอลลาร์เท่านั้นเอง

  • The Summit of the Gods

    The Summit of the Gods

    ★★★★½

    ทุกอย่างในเรื่องสะกดคนดูเหมือนต้องมนต์ โดยเฉพาะงานภาพที่ถูกคราฟท์ในทุกเฟรม ยอดเขาสูงที่ตั้งตระหง่านเบื้องหน้าคนดู หิมะสีขาวสะท้อนแสงอาทิตย์ตัดกับหินผาเทาทมึน น่ายำเกรงเหมือนอยู่ในแดนสวรรค์ ในขณะเดียวกันก็งดงาม ทำให้เข้าใจเหล่านักปีนเขาผู้รักความท้าทายได้ไม่ยากว่าทำไมต้องออกไปเสี่ยงตายแบบนี้

Popular reviews

More
  • Phantom Thread

    Phantom Thread

    ★★★★★

    This is so CHIC.

  • Cinema Paradiso

    Cinema Paradiso

    ★★★½

    จดหมายรักภาพยนตร์ที่อัดแน่นไปด้วยความ nostalgia ทั้งมีกลิ่นอายแบบหนังยุโรปอบอวลไปทั่วโรง และถ่ายทอดชนบทของอิตาลีออกมาได้อย่างมีเสน่ห์

    ถ้าตีความจากทัศนะของเรื่องนี้ภาพยนตร์คงจะเป็นภาชนะบรรจุความทรงจำและประสบการณ์ชั้นดี เมื่อกลับไปดูภาพยนตร์ในความทรงจำ สิ่งที่ได้กลับมาไม่ได้มีแค่เนื้อเรื่อง แต่รอบ ๆ นั้นจะปรากฏภาพของคนที่ไปดูกับเรา ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจ บางครั้งก็เกิดความผูกพันกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งขึ้นมา เหมือนกับโรง Cinema Paradiso ที่คอยยึดโยงโตโต้และผู้ชมกับอดีต 

    ในอีกแง่มุมหนึ่ง ภาพยนตร์ก็เหมือนเปลือกไข่ที่ห่อหุ้มผู้ชมจากภัยอันตรายของโลกความเป็นจริง ทุกครั้งที่เปิดหนังดูเราถูกสะกดอยู่ในโลกแห่งจินตนาการอันไร้ขอบเขต ที่นั่นเราจะได้ปลดปล่อยอารมณ์ไปพร้อม ๆ กับหนัง แล้วลืมโลกความจริงอันโหดร้าย นอกจากนี้ตัวภาพยนตร์เองก็ทำหน้าที่เป็นกาวที่ยึดชุมชนเข้าด้วยกันอย่างเหนียวแน่น 

    แม้ฉากจบที่ผกก. จุมพิตกับภาพยนตร์นับสิบเรื่องจะน่าประทับใจขนาดไหน แต่หนังเรื่องนี้ไม่ได้เติมเต็มขนาดนั้น เหมือนคลื่นความถี่ที่ไม่ตรงกัน ลึก ๆ แล้วก็รู้ว่าหนังเรื่องนี้ยอดเยี่ยมเพียงใด น่าเสียดายที่รู้สึกเฉย ๆ กับมันมากกว่า หวังว่าสักวันที่กลับมาดูเรื่องนี้จะจำความรู้สึกที่กำลังเขียนอยู่ตอนนี้ และรู้สึกดีกับมันขึ้นมามากกว่าเดิม

Following

10